1st Time เรียนชิบาริที่ญี่ปุ่น (Day 2)


สภาพเมืองในวันฟ้าครึ้ม ดูทะมึนมาก

บ่ายวันนี้เริ่มต้นด้วยฟ้าครึ้ม เพราะช่วงนี้พายุเข้าโตเกียว คนอื่นมาเที่ยวญี่ปุ่นจะเจออากาศสดใส ฟ้าสวย ถ่ายรูปดี นี่มาครั้งแรกเจอพายุเข้า กลับตาลปัตรดีมาก (ฮา) และใช่ครับ อ่านไม่ผิด ตื่นบ่าย เพราะตอนวางแผนก็มีเรื่องที่ตั้งใจจะทำในแต่ละวัน แล้วเวลาที่เหลือก็ปล่อยฟรี จะไปทำอะไรก็ตามใจ วันนี้มีทำเรื่องเดียวคือไป Ichinawa Salon ของ Hajime Kinoko ตอนทุ่มนึงที่ Kicolit Studio

เห็นว่าเวลาเหลือเลยหาโอกาสเดินสำรวจรอบ ๆ ที่พัก ซึ่งปกติชอบเดินอยู่แล้ว ยิ่งเป็นญี่ปุ่นที่ถนนหนทางดี เดินสะดวก เลยยิ่งสนุกใหญ่ ได้มองรายละเอียดรอบตัว ทำความคุ้นชินกับสถานที่อย่างไม่รีบร้อน แต่อากาศก็เป็นใจเหลือเกิน แดดไม่มี ฝนปรอยหยุมหยิมตลอดทาง คิดในใจว่าก่อนมามีคนบอกว่าช่วงนี้เข้าฤดูร้อน ไม่ต้องเตรียมเสื้อผ้ามาเยอะ ดูท่าจะต้องคิดใหม่ เดินได้สักพักก็ต้องล่าถอย เพราะเหมือนฝนจะไม่ยอมให้อ้อยอิ่ง เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในความเร่งรีบกลับที่พักก็ได้ประจักษ์ถึงประสิทธิภาพของร่มญี่ปุ่นที่คิดออกแบบมาอย่างรอบด้าน ไม่ว่าทำไมต้องทำเป็นร่มใส เพื่อจะได้มองเห็นทางเวลากางร่มปะทะกับลมฝนที่กระแทกมาซึ่งหน้า ถ้าโดนลมพัดแรงจนก้านร่มกระเดิดผิดด้าน แค่หันร่มมาให้ถูกด้าน ก้านก็กลับมาอยู่ที่เดิม ประทับใจมาก สมควรเรียกว่านวัตกรรมโดยแท้

มีป้ายบอกแต่มาเร็วไปเกือบชั่วโมง ฮรือ ไปหากาแฟทานก่อน

ตกเย็นก็เริ่มผจญภัยสถานีรถไฟกัน Kicolit Studio ตามแผนที่บอกว่าอยู่ที่สถานี Tadanobaba ซึ่งก็ไม่รู้ว่าห่างจาก Ikebukuro เท่าไร นี่ก็ไปยืนเกาะตรงที่ซื้อตั๋วแล้วใช้ Google Translate ที่ตอนนี้มีกล้องด้วย ส่องไปประโยคที่อยากรู้ก็จะแปลให้ทันที ช่วยลดความปวดหัวในต่างแดนได้ดีมาก และพบว่า Tadanobaba อยู่ไม่ไกลจาก Ikebukuro เท่าไหร่ ซื้อตั๋วแล้วเดินไปรอรถไฟที่ชานชาลา ความเป๊ะของเวลาในการเดินทางที่ญี่ปุ่นแสดงออกผ่าน Google Maps อย่างชัดเจน แค่เปิด Maps เลือกจุดหมาย จะเห็นเวลาที่ไปถึงจุดหมายซึ่งคลาดเคลื่อนน้อยมาก นี่ไปถึงที่ Tadanobaba ก่อนเวลา คือตื่นเต้นไง ว่ากันว่าคนญี่ปุ่นรักษาเวลา นี่ก็ไปก่อนเกือบชั่วโมง ไปเปิดประตูก็โดนบอกว่าให้ไปรอที่อื่นก่อน ตอนนี้ยังไม่เปิด ก็เลยต้องมาเดินวนละแวกนั้น ระหว่างที่เดิน ฝนก็ตกหนักอย่างไม่มีที่ท่าจะหยุด ความฝนญี่ปุ่นคือมีลมประกอบยิ่งทำให้รุนแรงกว่าปกติ ร่มเริ่มกันฝนไม่ไหว เลยตัดสินใจหาร้านกาแฟเข้าไปนั่งฆ่าเวลาก่อน ไม่งั้นมีสิทธิเป็นหวัด ป่วยในต่างประเทศไม่ได้สนุกแน่นอน

ทางเข้า (ลง?) ไปสตูดิโอ แต่ข้าง ๆ ก็เป็นสำนักงานของอาจารย์นะ

พอได้เวลาก็กลับไปอีกครั้ง Kitcolit Studio เป็นสตูดิโอที่ใช้ถ่ายงานของ อ.คิโนโกะ ชอบโครงสร้างภายในที่เป็นชั้นใต้ดินบวกบนดิน ทำให้เพดานสูงมาก Ichinawa Salon ก็คล้าย ๆ กับ rope jam ซึ่งตอนนี้จะจัดทุกศุกร์แรกของเดือน ไปถึงก็เจอกับ Zima, Shindo และ Davide (Laodai) ก็ทักทายเฮฮากัน พร้อมเอาของฝากจากไทยให้ด้วย Zima บอกว่า อ.คิโนโกะ ไปทำงานที่อื่น วันนี้เลยนั่งทำตัวเป็นชาวต่างชาติมาดูเขามัดกัน ซึ่งเปิดโลกมาก คนมัดในญี่ปุ่นมีหลากหลายทั้งอาชีพ เพศ และอายุ ทุกคนดูเก่ง ไม่ธรรมดาจริง ในงานได้รู้จักกับ EbiMcKnotty คนนี้เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว เธอเล่าว่ามาเรียนกับ Akechi Kanna แล้วเดี๋ยวจะกลับแคนาดาในวันสองวันนี้ นี่แค่ไปนั่งดูก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ กว่าจะออกจากซาลอนก็ดึก นั่งรถไฟกลับถึงโรงแรมรีบอาบน้ำแล้วห่มผ้านอน เพราะเปียกปอนมาก วันนี้ฝนตกหนักทั้งวันจริง